เกาะพะงันในวันที่ไม่มีฟลูมูนปาร์ตี้ แต่ยังมีมนต์เสน่ห์ความสวยงามของธรรมชาติทั้งบนเกาะและท้องทะเล ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมาสื่อท่องเที่ยวของสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับเกาะพะงันให้เป็นเกาะที่ดีที่สุด 1 ใน 3 ของโลกอีกด้วย ลองลบภาพฟลูมูนปาร์ตี้ออกไป แล้วเดินทางมาเที่ยวในช่วงเวลาปกติ  คุณจะได้สัมผัสความเป็นเกาะพะงันอย่างแท้จริง …

           เกาะพะงัน เป็นเกาะในอ่าวไทยซึ่งถือว่าเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะสมุย ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศไทย ในอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะพะงัน เป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลามานาน ว่ากันว่ากลุ่มแรกที่เข้ามาอยู่บนเกาะน่าจะเป็นแขกจากมลายู ทำประมงเป็นอาชีพหลัก ในส่วนของชื่อเกาะพะงันนั้นก็มีความหมายมาจากคำว่า “หลังงัน” เป็นภาษาถิ่นที่หมายถึงสันทรายที่โผล่พ้นน้ำตอนน้ำลงนั่นเอง มีชื่อเสียงจากงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่จัดขึ้นที่หาดริ้น เกาะพะงันอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันออกของไทยไปประมาณ 60 กิโลเมตร

การเดินทางมายังเกาะพะงันได้โดยเรือเฟอร์รี่ จากท่าเรือดอนสักใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือจะนั่งเครื่องบินไปลงที่เกาะสมุยแล้วต่อเรือเร็วมายังเกาะพะงันจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที และช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวเกาะพะงันอยู่ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม

      ทริปนี้เราขับรถส่วนตัวมาลงเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือดอนสัก โดยจองผ่านหน้าเว็บของบริษัท (ถ้าไม่จองต้องมารอคิวนานหรืออาจจะตกคิวไปหลายชั่วโมงนะ) ค่าบริการรถ 1 คัน พร้อมคนขับ 550 บาท ผู้โดยสารคนอื่นคนละ 210 บาท เมื่อมาถึงติดต่อรับบัตรที่ตู้ผ่านด่านแล้วนำรถมาต่อคิวลงเรือ (แนะนำว่าให้มาก่อนเวลาสัก 1/2 ชั่วโมง จะได้มีเวลาจัดการเรื่องตั๋วและคิวรถ) แต่ในขณะรอก็ยังมีวิวบรรยากาศชายทะเลบริเวณท่าเรือที่สวยงามไม่น้อยให้ดูกันพลางๆ 

เมื่อขึ้นเรือจะมีโซนที่นั่งให้เราเลือกตามความชอบ ทั้งห้องแอร์ ห้องพัดลม ยืนเกาะขอบเรือ หรือจะไปดูวิวที่หัวเรือ ท้ายเรือ บนดาดฟ้ามีให้เลือกตามอัธยาศรัย อีกทั้งยังมีร้านค้าที่ให้บริการอาหารเครื่องดื่มอีกด้วย

ถ่ายรูปเล่นมุมต่างๆ บนเรือช่วยฆ่าเวลาได้ดี

เราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง จากดอนสักมาถึงเกาะพะงัน มาขึ้นที่ท่าเรือท้องศาลา ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเกาะพะงัน เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งรถเช่า รถสองแถว ด้านหน้าก็เป็นตลาดที่มีสำนักงาน ห้างร้านค้า ธนาคาร ใครไปไหนไม่ถูกคงต้องเริ่มกันที่จุดนี้

ทางเข้าท่าเรือท้องศาลา

หน้าท่าเรือท้องศาลา

จากนั้นเราขับรถมายังซี การ์เด้น2 รีสอร์ท เป็นที่พักที่จองไว้อยู่บริเวณหาดเจ้าเภา ชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตก ห่างจากท่าเรือเกาะพะงันขึ้นไปทางเหนือประมาณ 10 กม. ซึ่งการจองเราดูจากรูปและราคาที่เหมาะสม และพอมาถึงก็เริ่มรู้สึกว่าคิดไม่ผิด ด้วยรูปแบบที่พักที่เน้นความเรียบง่าย ผสมผสานในความทันสมัยและความโล่งของธรรมชาติ ทำให้เราสามารถชมวิวทัวทัศน์ได้แบบพาโนรามาสุดลูกหูลูกตา และยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น และที่สำคัญที่นี่บริการดีมาก ประทับใจกันไป

จากภายในห้องพักสามารถมองเห็นทะเลแบบเต็มๆ

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

มีเปลให้นอนเล่นชมบรรยากาศ ดูทะเลแบบพาโนรามากันเลยทีเดียว

บรรยากาศที่พักโดยรอบถูกตกแต่งในสไตล์ Tropical Modern

จากสระว่ายน้ำมองเห็นทะเลสุดสายตา

มุมร้านอาหารก็ยังสามารถชมวิวทะเลกับแบบเต็มอิ่ม

หาดริ้น สถานที่จัดฟูลมูนปาร์ตี้ อยู่ทางด้านใต้ของเกาะ มีชายหาดยาวประมาณ 1 กม. ลักษณะเป็นพื้นที่ราบเชื่อมต่อระหว่างเขาหิน 2 ลูก ที่ยื่นออกไปเป็นแหลมริ้น ทำให้แบ่งพื้นที่เป็นหาดริ้นนอกและหาดริ้นใน บริเวณหาดคราคร่ำไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร สถานบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ถ้าไม่ใช้ช่วงฟลูมูนปาร์ตี้ก็ค่อนข้างเงียบพอสมควร

พื้นที่บริเวณชายหาดที่ใช้จัดฟลูมูนปาร์ตี้

          นอกจากหาดริ้นแล้วยังมีสถานที่ร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ สถานบันเทิงตามแบบเมืองท่องเที่ยวชายทะเล ที่พักโรงแรม รีสอร์ทที่เรียงรายตามแนวชายฝั่งทะเลล้วนมีรูแบบที่น่าสนใจ ทันสมัย บรรยากาศดีและวิวสวยๆ มากมาย 

ที่นี่น่าจะเป็นร้านอาหารแต่เสียดายที่ไม่ได้เปิดใช้

ร้านค้าข้างทางลงหาดริ้น

          เกาะราฮัม เป็นชื่อของ Restaurant & Beach Bar มีลักษณะแหลมยื่นออกไปในทะเลมีหน้าผาเล็กๆ ริมหาดสน บนเกาะพะงัน มีทางเดินเชื่อมต่อออกไปจากหาดสนรีสอร์ท ไปตามเนินเขาค่อนข้างลาดชัน ต้องออกแรงกันหน่อยกว่าจะไปถึง แต่ก็คุ้มครับ พอมาถึงต้องว้าว! กันทุกคน ด้วยแนวตกแต่งพื้นที่แบบธรรมชาติชาวเกาะมากมายหลายมุม

มีมุมถ่ายรูปมากมายที่จัดไว้

บริเวณหน้าผาที่คนนิยมมาโดดน้ำกัน

          เกาะราฮัมมีบริการทั้งอาหาร กาแฟ ค็อกเทล หรือเบียร์เย็นๆ นั่งดื่ม นั่งกิน นั่งมองทะเลและบรรยากาศโดยรอบ หรือจะนอนเปลฟังเสียงคลื่นกระทบโขดหินก็มีไว้บริการหลายอัน แต่ที่เด็ดสุดน่าจะเป็นการได้โดดทะเลจากหน้าผาของร้าน ต่อด้วยดำน้ำดูปลาสีสันสวยงามมากมาย และที่เกาะนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดจุดหนึ่งในเกาะพะงันเลยล่ะ

หาดแม่หาด เป็นชายหาดที่ทอดยาวเป็นโค้งพระจันทร์เสี้ยวอยู่ด้านเหนือของเกาะ หาดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของชายหาดที่สวยงาม อยู่ติดกับเกาะม้า ในช่วงเวลาน้ำลดจะปรากฎทางเดินเชื่อมต่อกลางทะเลกลายเป็นทะเลแหวกเดินไปสู่เกาะม้า นอกจากนี้จุดเชื่อมระหว่างหาดแม่หาดกับเกาะม้า ยังสามารถดำน้ำชมปะการังได้อีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ต้องล่องเรือไปกลางทะเลก็สามารถเห็นปะการังสวยๆ ได้ และบรรยากาศที่แสนสงบ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกจุดหนึ่งบนเกาะพะงัน

ทะเลแหวกที่ทอดยาวไปถึงเกาะม้า

แนวโขดหินบนหาดแม่หาด

หาดเจ้าเภา เป็นอ่าวที่มีแนวโขดหินเรียงรายตามชายหาดจึงไม่เป็นที่นิยมเล่นน้ำมากนัก แต่ด้วยความเป็นแนวโขดหินนี่เองจะทำให้มีแนวปะการังเล็กๆ สัตว์น้ำนานาชนิดทั้งปลิงทะเล หอยเม่น ปูและปลาต่างๆ มากมาย และการมาถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็สวยได้บรรยากาศไม่น้อยทีเดียว

แสงอาทิตย์ตกกระทบทะเลและโขดหินที่หาดเจ้าเภา

ท้องจอดเรือ ที่เกาะพะงันนี้ที่มีพื้นที่ที่ขุดเข้ามาเพื่อใช้เป็นที่จอดเรืออยู่หลายแห่ง และด้วยความสวยงามของเรือที่มีสีสันสวยงาม เหมาะกับการมาถ่ายรูปไม่น้อยเลยทีเดียว 

สีสันและความงามของท้องจอดเรือบ้านวกตุ่ม

คลองเชื่อมทะเลหาดวกตุ่ม

ท้องจอดเรือบ้านใต้

Art ติดเกาะ ผลพวงของสถานะการณ์โรคโควิท-19 ทำให้เหล่าศิลปินทั้งไทยและชาวต่างชาติรวมตัวกันสร้างงานศิลป์จากธรรมชาติขึ้นมา โดยเฉพาะการนำทางมะพร้าวมาเขียนสี แล้วนำมาจัดแสดง และที่นี่ก็เป็นตลาดงานศิลปะ สามารถมาเดินชมงานและหาซื้อติดไม้ติดมือไปได้ Artติดเกาะ Marketนี้ อยู่แถวบ้านใต้ ติดกับสำนักงานการไฟฟ้าเกาะพะงัน

ทางเข้า Art ติดเกาะ Market บริเวณที่จัดให้มีการขายงานศิลป์

ภาพเขียนสีบนทางมะพร้าวที่โด่งดัง

        หาดวกตุ่ม เป็นหาดที่เงียบสงบ พื้นที่ชายหาดเป็นทรายปนเลนอุดมไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด เป็นแหล่งทำมาหากินของชาวบ้านแถวนี้ ทำให้เราได้สัมผัสวิถีการต่อเรือของชาวประมงซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่น มีหาดทรายสีน้ำตาลอ่อน
       ก่อนนี้ที่หาดวกตุ่มนี้จะมีภาพมะพร้าวเอนที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะพะงันก็ว่าได้ ที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายภาพด้วย แต่ปัจจุบันเหลือแต่ตอแล้ว แต่ก็ยังมีเสน่ห์ของหาดที่สงบนี้อยู่

หาดวกตุ่ม

มะพร้าวเอนเหลือเท่านี้

หาดวกตุ่ม

ดูจากแผนที่จะเห็นถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บนเกาะพะงันชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่แถบชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของเกาะนี่ล่ะ

ที่มา : http://www.dooasia.com/thailand-map/suratthani2.shtml

          ลองมาสัมผัสความงามตามธรรมชาติของเกาะพะงันนี้ดู แล้วจะรู้ว่าทำไมผู้คนจึงอยากมาเที่ยว มาปาร์ตี้ที่นี่กันนัก ซึ่งก็ควรวางแผนการเดินทางให้ดีทั้งการจองที่พัก การจองเที่ยวเรือ ไม่เช่นนั้นรอกันนานเลยล่ะ เดี๋ยวจะไม่สนุกเอา แนะนำว่าควรมาพักสัก 2 คืน เพื่อจะได้เที่ยวได้ทั่วหลายๆ ที่ ไม่เช่นนั้นจะไปหมดเวลากับการนั่งเรือไปกลับอย่างเดียว จะทำให้ไม่ได้สัมผัสความงามตามธรรมชาติที่เกาะนี้มีให้ที่ไม่แพ้ที่ใดในโลกนะจะบอกให้

By Panom Boonprai

M.S. (Information and Internet Technology) Teacher of Special expertist. Information Technology dept. Suratthani Technical College.