เอาล่ะ! จะออกเที่ยวแล้ว จะถ่ายรูปจริงจังละนะ …แล้วจะใช้กล้องแบบไหนดี?
คำถามนี้ต้องอธิบายกันยาว ฉนั้นเรามาดูกันเลยว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับการเลือกซื้อกล้องสักตัว

        กล้องถ่ายภาพดิจิตอลในปัจจุบันแต่ละชนิดมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ผู้ใช้มักประสบปัญหาในการเลือกซื้อกล้อง ทั้งในเรื่องของการใช้งาน งบประมาณ ขนาด และคุณสมบัติอีกหลายประการ ซึ่งในที่นี้จะขอกล่าวถึงการเลือกและสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงในการซื้อกล้องดิจิตอลเป็นหลัก ดังนี้

# …ประการแรกต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ถ้าเราใช้งานทั่วไป ถ่ายภาพเน้นความคมชัด  ใช้ง่าย ก็ควรเลือกเป็นกล้องอัตโนมัติที่เหมาะสำหรับผู้มือสมัครเล่นหรือผู้เริ่มใช้งาน และถ้าเป็นผู้ที่มีความชำนาญในการใช้งานกล้อง และต้องการภาพที่มีลักษณะพิเศษ ควรพิจารณากล้องที่มีคุณสมบัติที่ตอบสนองกับงานประเภทต่างๆ ได้ เช่น กล้องระดับมืออาชีพ กล้องที่ใช้ในสตูดิโอ กล้องถ่ายภาพกีฬาหรือใต้น้ำ หรือกล้องถ่ายภาพทางอากาศ (โดรน) เป็นต้น

ประเภทของกล้อง

      1. Camera Phone หรือกล้องบนสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอแล้วยังสามารถส่งภาพผ่านฟังก์ชันของสมาร์ทโฟนได้ทันที เป็นกล้องที่ใช้งานง่าย มีเลนส์โฟกัสคงที่ เซ็นเซอร์มีขนาดเล็กทำให้คุณภาพของภาพไม่ดีนัก แต่ในปัจจุบันกล้องบนสมาร์ทโฟนมีการพัฒนาเพิ่มเลนส์เพื่อใช้ในการถ่ายภาพได้หลากหลายขึ้น มีเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น และมีแอพพลิเคชั้นที่สามารถจัดการกับภาพได้รวดเร็วทำให้สามารถนำภาพไปใช้งานได้ทันที ส่วนความสามารถด้านการถ่ายวีดิโอได้คุณภาพในระดับ 4k เลยทีเดียว แถมยังมีแอพพลิเคชั่นตัดต่อได้ง่ายเพื่ออัพโหลดและเผยแพร่ได้รวดเร็ว นับว่าเป็นการใช้งานที่สะดวกมากทีเดียว

     2. กล้อง Compact เป็นกล้องที่มีตัวเลนส์อยู่ติดกับตัวกล้อง ไม่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ มีขนาดเล็กพกพาสะดวก การใช้งานที่ง่ายโดยเน้นความเป็นอัตโนมัติ กดเปิดแล้วกดชัตเตอร์ได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องปรับค่าใดๆ และมีราคาที่ไม่แพง แต่มีรูรับแสงที่จำกัด ช่วงซูมที่จำกัด เซ็นเซอร์ขนาดเล็กทำให้คุณภาพของภาพไม่ดีเท่าไรนัก

สมาร์ทโฟน iPhone 11 ที่มีเลนส์หลัง 3 เลนส์
ที่มา : https://mobilezone.com.br

กล้องคอมแพคของ Canon
ที่มา : https://www.amazon.co.uk

      3. กล้อง DSLR (Digital Single Lens Reflex) เป็นกล้องที่พัฒนามากจากกล้องถ่ายภาพฟิล์มแบบ SLR เดิม โดยยังใช้กระจกเพื่อสะท้อนแสงจากเลนส์ไปยังปริซึมบนกระโหลกกล้องแล้วสะท้อนต่อไปยังช่องมองภาพ และเมื่อกดชัตเตอร์ กระจกสะท้อนภาพจะถูกพับขึ้นไปปิดช่องมองภาพเพื่อเปิดทางให้แสงวิ่งเข้าไปยังเซนเซอร์รับภาพ เป็นกล้องที่มีช่องมองภาพแบบออปติคัล การตั้งค่าปรับแต่งสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ คุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอมีความละเอียดสูง ประเภทของตัวกล้องและเลนส์มีหลากหลาย มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่จึงให้คุณภาพของภาพที่ดี แต่รูปร่างอาจจะมีขนาดใหญ่ และราคาแพง

      4. กล้อง Mirrorless คือ กล้องที่ไม่มีกระจกะสะท้อนภาพจากเลนส์ไปยังช่องมองภาพเหมือนกล้อง DSLR ทำให้ตัวกล้องเล็กลงได้มาก เป็นกล้องที่ผสมผสานข้อดีระหว่างกล้องคุณภาพสูงอย่าง DSLR กับกล้อง Compact สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ เป็นกล้องที่มีคุณภาพสูงเทียบเท่ากล้อง DSLR แต่มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด ทำงานเงียบกว่าทำให้สามารถควบคุมได้ง่ายกว่า

กล้อง DSLR ที่มีรูปร่างค่อนข้างใหญ่
ที่มา : http://techbahari.com

กล้อง Mirrorless ที่มีรูปร่างบางและเบากว่า DSLR
ที่มา : https://dayself.com

     5. กล้อง Action Camera หรือ Action Cam เป็นกล้องประเภทที่ผลิตออกมาเพื่อใช้สำหรับกิจกรรมผจญภัยต่างๆ โดยเฉพาะ นอกจากจะสามารถถ่ายได้ทั้งวิดีโอแล้ว ยังสามารถถ่ายภาพได้ด้วย น้ำหนักเบากะทัดรัดทนทานดูและชัตเตอร์ผ่านสมาร์ทโฟนติดตั้งได้เกือบทุกที่ป้องกันสภาพอากาศ
เซ็นเซอร์ขนาดเล็กโฟกัสคงที่ช่องมองภาพไม่สามารถใช้ได้ตลอดเวลาการปรับแต่งการตั้งค่ากล้องเล็กน้อย ตัวเล็กพกพาสะดวกแต่เป็นกล้องที่มีความสามารถและคุณภาพของตัวกล้องดีเยี่ยม กล้องประเภทนี้จะรู้จักกันในชื่อ GoPro แต่ปัจจุบันก็มีอีกหลายยี่ห้อที่ผลิตออกมา

    6. โดรนติดกล้อง หรืออากาศยานไร้คนขับที่ปัจจุบันนิยมนำมาใช้ในการบินถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอในมุมสูง มีระบบการบินอัจฉริยะพร้อมฟังก์ชันการทำงานอัตโนมัติที่มีให้เลือกใช้งานมากมาย ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด จึงทำให้โดรนสามารถบินเข้าถึงทุกพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้โดรนยังสามารถสร้างสรรค์มุมมองภาพที่แปลกใหม่ ให้ผู้ใช้งานได้มีจินตนาการและฉีกกฏการนำเสนอมุมมองภาพถ่ายแบบเดิมๆ

โดรนติดกล้องถ่ายภาพ
ที่มา: https://www.dji13store.com/

กล้อง Action Cam ของ GoPro
ที่มา :
https://www.allgopro.com/

ประเภทของกล้องตามขนาดเซ็นเซอร์

   1. กล้องฟูลเฟรม (Full Frame) หมายถึงกล้องที่ยึดเอารูปแบบของกล้องในยุคกล้องฟิลม์เป็นหลัก กล่าวคือแผ่นฟิล์ม 35 มม. 1 แผ่นจะมีขนาด 36มม.x24 มม. พอมาในยุคดิจิตอลเราก็เลยเรียกกล้องที่มีเซ็นเซอร์เท่ากับแผ่นฟิลม์ 35 มม. ว่ากล้องฟูลเฟรม ซึ่งมีลักษณะต่างๆ ดังนี้
   – เป็นกล้องที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ จึงมีสัญญาณรบกวนหรือ Noise ที่น้อยกว่า ทำให้มีความละเอียดสูง คุณภาพของภาพดีกว่า
   – สามารถเก็บรายละเอียดของแสงส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีกว่า
   – 
ถ้าใช้เลนส์ช่วงเท่ากันจะได้มุมรับภาพที่กว้างมากกว่ากล้อง APS-C

   2. กล้องตัวคูณหรือกล้อง APS-C หมายถึงกล้องที่มีเซ็นเซอร์เล็กกว่ากล้องฟลูเฟรมอยู่ 1.5เท่า หรือ 1.6เท่า แล้วแต่ยี่ห้อ (Nikon เท่ากับ 1.5 เท่า, Canon เท่ากับ 1.6 เท่า) ฉนั้นกล้อง APS-C จึงมีลักษณะต่างๆ ดังนี้
   – ตัวกล้องมีขนาดเล็กและเบากว่ากล้องที่มีขนาด Full frame
   – กล้อง APS-C เมื่อใส่เลนส์ แล้วจะมีทางยาวโฟกัสมากขึ้น (ด้วยเหตุผลเรื่องตัวคูณเซ็นเซอร์)

   – เมื่อใส่เลนส์ตัวเดียวกัน ความคมชัดของภาพที่ได้จะดีกว่ากล้อง Full frame เนื่องจากกล้อง APS-C จะ Crop ตรงกลางภาพอยู่แล้ว

กล้อง APS-C ของ Canon รุ่น 90D
ที่มา : https://www.apollo.nl

กล้อง Full Frame ของ Canon รุ่น 5D iv
ที่มา : https://en.wikipedia.org

ความรู้เกี่ยวกับเลนส์

         เลนส์แต่ละแบบจะมีคุณสมบัติของเลนส์ที่ให้ภาพถ่ายที่ได้ออกมาแตกต่างกัน จะพูดว่าภาพที่ได้ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้ก็ว่าได้ ดังนั้นการเลือกและใช้งานเลนส์ สามารถสร้างความแตกต่างจากภาพธรรมดาให้เป็นผลงานที่น่าสนใจได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์กว้างใหญ่สุดลูกลูกตา ภาพแมลงในระยะใกล้ที่ทำให้เห็นรายละเอียดมากมายแบบที่ตาเรามองไม่เห็น การเคลื่อนไหวของกีฬาและการแข่งรถ และอีกมากมาย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของกล้องที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ทำให้สามารถสร้างมุมมองของภาพได้หลากหลายจากกล้องของเรา ซึ่งมีวิธีจัดประเภทเลนส์ต่างๆ ดังนี้
– เลนส์มุมกว้าง (Wide Angle) เป็นเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสไม่เกิน 35 มม. และถ้ามีทางยาวโฟกัสไม่เกิน 24 มม.จะถือว่าเป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษหรือ Ultra Wide

– เลนส์มาตรฐาน (Normal) เป็นเลนส์ที่มีช่วงทางยาวโฟกัสระหว่าง 35 มม. ถึง 135 มม.
– เลนส์เทเลโฟโต้ (Tele Photo) เป็นเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสมากกว่า 135 มม.

1.เลนส์มุมกว้าง (Wide angle lense)
        เลนส์มุมกว้าง เป็นเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสต่ำกว่า 35 มม. ลงมา เลนส์ประเภทนี้มีองศาการรับภาพ หรือมุมมองที่ใกล้เคียงสายตาคน ถ่ายระยะชัดลึกได้กว้างกว่าที่ตาของคนเรามองเห็น และถ้าเป็นเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสไม่เกิน 24 มม. จะถือว่าเป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษ หรือ Untra Wide-angle lens
ส่วนเลนส์ที่ถ่ายทอดสัดส่วนของภาพออกมาใกล้เคียงกับภาพที่ตาเรามองเห็นเป็นเลนส์ทางยาวโฟกัส 50 มม. จึงเรียกเลนส์แบบนี้ว่าเลนส์นอร์มอล (Normal)
       เลนส์มุมกว้างนิยมใช้ในการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์เพื่อเก็บรายละเอียดในมุมที่กว้าง หรือใช้ถ่ายภาพในสถานที่แคบๆ ซึ่งไม่สามารถจะถอยหลังเพื่อเก็บภาพให้หมด ซึ่งภาพถ่ายที่ได้จะมีความชัดลึกที่สูงตั้งแต่วัตถุที่อยู่ไกล้เลนส์ไปจนถึงฉากหลังที่ห่างออกไป และภาพที่ได้จากเลนส์มุมกว้างนี้
จะให้มุมมองที่ทำให้วัตถุที่อยู่ใกล้ดูมีขนาดใหญ่ขึ้นและใกล้ขึ้นและวัตถุที่อยู่ไกลดูมีขนาดเล็กลงและอยู่ห่างมากขึ้น จึงนิยมใช้คุณลักษณะนี้ในการถ่ายภาพสถาปัตยกรรมเพื่อทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น แต่ต้องจำไว้ว่ายิ่งถ้าเลนส์มีมุมกว้างมากขึ้นเท่าใดก็จะเห็นความบิดเบือนมากขึ้นเท่านั้น

Canon EF 14mm f/2.8L II USM Ultra-Wide Angle Fixed Lens for Canon Digital SLR
ที่มา: https://www.bhphotovideo.com/

NIKKOR 20mm f/1.8G ED Fixed Lens with Auto Focus for Nikon DSLR Cameras
ที่มา: https://www.amazon.com

ภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้างที่ 20 มม. ที่ให้ความชัดลึกและมุมมองเปอร์สเป็คทีฟ

2.เลนส์มาโคร (Macro Lense)
        เลนส์มาโคร เป็นเลนส์ที่มีความสามารถในการโฟกัสวัตถุได้ในระยะไกล้มากซึ่งหมายถึงการวางเลนส์ไว้ใกล้ตัวแบบมากๆ ได้ และมีกำลังขยายมากกว่าเลนส์ทั่วไป อย่างน้อย 1:1 ซึ่งหมายถึงเราจะยังคงได้ภาพระยะใกล้ขนาดเท่าจริงโดยที่ตัวแบบยังคงเต็มเฟรม เหมาะสำหรับถ่ายภาพดอกไม้ แมลง และตัวแบบที่มีขนาดเล็กอื่นๆ แต่เลนส์มาโครจะมีระยะชัดลึกที่ตื้นมาก ส่วนที่อยู่นอกโฟกัสและเบลอโดยมี โบเก้ที่งดงามและเสริมให้ตัวแบบดูโดดเด่นสวยงามทีเดียว

เลนส์มาโครในท้องตลาดทั่วไปที่ผลิตออกมาจะมีหลายช่วงความยาวโฟกัส ซึ่งวิธีการสังเกตุว่าเลนส์ตัวใหนเป็นเลนส์มาโครให้ดูที่กระบอกเลนส์จะมีคำว่า Macro อยู่ ส่วนการเลือกใช้เลนส์มาโคร ควรเลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้งาน เช่น การถ่ายภาพแมลงและต้องอยู่ห่างจากตัวแบบพอสมควรเพื่อไม่ให้แบบตกใจ ก็ต้องใช้เลนส์มาโครที่มีทางยาวโฟกัสมากสักนิด แต่ราคาก็จะแปรผันตามความยาวโฟกัสด้วยเช่นกัน

Canon EF 100mm f/2.8L Macro IS USM Lens
ที่มา : https://www.bhphotovideo.com/

Sony FE 90mm f/2.8 Macro G OSS Lens
ที่มา : https://www.bhphotovideo.com/

ภาพจั๊กจั่นที่ถ่ายด้วยเลนส์มาโคร เปิดให้เห็นรายละเอียดชัดเจน

3.เลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto Lense)       
        เลนส์เทเลโฟโต้ เป็นเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสที่ยาวกว่าเลนส์ปกติ ใช้ในการขยายวัตถุที่อยู่ไกลออกไปซึ่งจะช่วยดึงตัวแบบเข้ามาใกล้ได้เต็มเฟรม และมีมุมรับภาพที่แคบ ให้ผลในการบีบมุมมองภาพ ทำให้องค์ประกอบในภาพดูใกล้กันมากขึ้น จึงช่วยตัดองค์ประกอบในส่วนแบ็คกราวด์ที่ไม่ต้องการออกจากเฟรมภาพได้ง่าย และยังให้ระยะชัดลึกที่ตื้นจึงสร้างแบ็คกราวด์เบลอได้ง่าย ทำให้วัตถุนอกโฟกัสที่อยู่ห่างไกลถูกดึงให้เข้ามาใกล้และขยายใหญ่ขึ้นจนส่วนที่เบลอดูมีขนาดใหญ่ขึ้น
เหมาะสำหรับการถ่ายภาพสัตว์ กีฬา รถยนต์ การแข่งขันรถ และแบบอื่นๆ ที่ถ่ายในระยะใกล้ได้ยาก
        เลนส์เทเลโฟโต้ มีผลที่ทำให้ภาพบิดเบี้ยวน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเลนส์ประเภทอื่นอย่างเลนส์มุมกว้าง จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคล โดยเลนส์เทเลโฟโต้จะแบ่งออกได้เป็น เลนส์เทเลโฟโต้ที่มีทางยาวโฟกัสอย่างน้อย 135 มม. และเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่มีทางยาวโฟกัสอย่างน้อย 300 มม.

Canon EF 70-200 mm f/2.8L IS II USM
ที่มา : https://www.cameracorp.com.au

Tamron 100-400mm f/4.5-6.3 Di VC USD Lens
ที่มา : https://www.bhphotovideo.com/

ภาพถ่ายจากเลนส์เทเลโฟโต้ที่ระยะ 400มม. ที่สามารถดึงฉากหลังเข้ามาให้ดูยิ่งใหญ่อลังการได้

# …ประการต่อมาเมื่อเลือกประเภทและรูปแบบของกล้องที่ต้องการได้แล้ว ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของกล้องที่จะซื้อเพื่อให้ได้กล้องถ่ายภาพที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด ดังนี้ 
        1) ความละเอียดของภาพเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ เช่นกล้องมืออาชีพรุ่นใหม่ๆ มีความละเอียดของภาพไปถึง 30 ล้านพิกเซลขึ้นไปกันแล้ว ในปัจจุบันกล้องบนสมาร์ทโฟนบางรุ่นก็มีความละเอียดถึง 12 ล้านพิกเซลกันเลยทีเดียว กล้องคอมแพคบางรุ่นมีความละเอียดถึง 20 ล้านพิกเซล ซึ่งเหล่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอยู่แล้ว ดังนั้นควรพิจารณาหาว่าเราต้องการความละเอียดเท่าไร
        2) เป็นกล้องที่สามารถรองรับไฟล์ภาพตามที่ต้องการหรือไม่ เช่น
JPEG, RAW หรือไฟล์วีดิโอ mp4 
        3) ระบบโฟกัส ซึ่งกล้องส่วนใหญ่ก็จะเป็นระบบโฟกัสแบบอัตโนมัติหมดแล้ว แต่ที่ต้องมาดูที่ระบบนี้ก็น่าจะเป็นกล้องระดับ DSLR หรือ Mirrorless ที่มีจำนวนจุดโฟกัสแตกต่างกัน เพราะ
จุดโฟกัสที่มากจะทำให้เราโฟกัสภาพได้มากขึ้น โอกาสที่เราจะพลาดก็น้อยลง
        4) เป็นกล้องที่มีระบบควบคุมแบบอัตโนมัติ หรือระบบที่สามารถกำหนดค่าด้วยตัวเองได้ หรือเป็นระบบที่สามารถควบคุมค่าบางอบ่างได้ เช่น ความเร็วชัตเตอร์  รูรับแสง  ISO และอื่นๆ
        5) เป็นกล้องที่มีจอ LCD ที่สามารถควบคุม หรือตรวจสอบการถ่ายภาพได้ทันที เป็นแบบหน้าจอสัมผัส และสามารถพับจอเพื่อใช้ถ่ายในมุมแปลกๆ เป็นไปตามความต้องการเราหรือไม่
        6) อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่จะส่งผลในส่วนของการใช้งาน อายุการใช้งาน และราคาของแบตเตอรี่ประกอบ เพราะกล้องบางรุ่นเมื่อถึงกำหนดเปลี่ยนแบตเตอรี่ราคาค่อนข้างสูง ในข้อนี้ต้องไปหาข้อมูลรีวิวในเว็บต่างๆ อ่านประกอบ
        7) ความสามารถด้านการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB ได้ หรือเชื่อมต่อผ่านสัญญาณบลูทูจ ไวไฟ ตามความต้องการของผู้ใช้
        8) ใช้การ์ดบันทึกข้อมูลชนิดใด เช่น CF Card หรือ SD Card 
        9) ขนาด รูปร่าง และน้ำหนักเหมาะสมกับผู้ใช้หรือไม่ หรืองานที่ทำต้องใช้กล้องรูปแบบใดจึงจะเหมาะสม                                                                       

ภาพโบรชัวร์แสดงคุณสมบัติกล้อง Canon EOS 5D Mark IV
ที่มา : https://th.canon/th/

# …ประการสำคัญในเรื่องงบประมาณในการซื้อกล้องเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยกว่าคุณสมบัติในข้ออื่น หากพบว่ากล้องถ่ายภาพที่จะเลือกซื้อมีราคาเกินกว่าที่ตั้งไว้ ก็ควรพิจารณากล้องที่มีคุณลักษณะที่ต่ำลง แต่ยังสามารถใช้งานในรูปแบบเดิมได้ หรือเลือกกล้องแบบอื่นแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกล้องและอุปกรณ์กันอย่างกว้างขวาง ทำให้เราสามารถเลือกซื้อกล้องตามแบบที่ต้องการได้ในราคาที่ย่องเยาลง

ตัวอย่างการเลือกซื้อกล้อง
  – ในกรณีที่เป็นผู้หญิงที่อยากได้กล้องเล็กๆ ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ ปรับตั้งค่าเพื่อการถ่ายภาพเองได้ ก็ต้องเลือกกล้อง Mirrorless ไปเลย ส่วนจะเอายี่ห้อใด รุ่นใด ต้องดูที่งบประมาณและความชอบของบุคคลอีกที
  – ในกรณีบางคนบอกว่าอยากจะได้กล้องที่ใช้สะดวก ตกแต่งภาพได้ง่ายและอัพโหลดเผยแพร่ง่ายๆ ก็คงต้องใช้กล้องพวกสมาร์ทโฟน แถมยังสามารถถ่าย ตัดต่อวีดิโอได้ อัพโหลดขึ้นโซเชียลได้ทันที
  – ในกรณีที่ต้องการความสามารถทุกอย่าง ความละเอียดสูงๆ เป็นเซ็นเซอร์แบบฟลูเฟรม ปรับตั้งค่าได้ทุกอย่าง ไฟล์ภาพมีคุณภาพสูงก็คงต้องเป็นกล้องโปร ทั้ง DSLR และ Mirrorless แบบ Full Frame
  – ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการใช้เป็นกล้องถ่ายกิจกรรม หรือการผจญภัยต่างๆ ได้ทั้งภาพถ่ายและวีดิโอ ต้องเลือกใช้กล้อง Action Camera
  – ในกรณีผู้ที่มีอายุสักหน่อยไม่อยากจะยุ่งยากอะไรมาก ถ่ายภาพเก็บไว้ใช้ในงานของตน พกพาสะดวก สมาร์ทโฟนก็ใช้ไม่ค่อยเป็น แนะนำให้ใช้กล้อง Compact

      จากข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลพื้นฐานประกอบการตัดสินใจในการเลือกกล้องให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งนอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางด้านความชอบ ค่านิยม หรือราคาขายต่ออีกหลายประการ
      โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าไปมาก ทำให้ความสามารถด้านการบันทึกภาพ ตกแต่งภาพให้มีคุณภาพในระดับดี ถูกบรรจุอยู่ในสมาร์ทโฟนของเราไปแล้ว อย่างเช่นถ้าเราต้องการเดิน Vlog เพื่อทำคลิปวีดิโอ เราสามารถใช้สมาร์ทโฟนของเราถ่ายทำ ตัดต่อและอัพโหลดเพื่อเผยแพร่ได้ทันที แต่ถ้าต้องการภาพที่สามารถนำไปตกแต่งเพิ่มเติมมากๆ โดยไม่เสียคุณภาพของภาพก็ต้องใช้กล้องโปรกันไปเลย แต่ก็อยากจะเน้นว่า “ภาพที่ได้ ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้” นะ

By Panom Boonprai

M.S. (Information and Internet Technology) Teacher of Special expertist. Information Technology dept. Suratthani Technical College.