เกาะปีนัง ดินแดนปลอดภาษีที่น่าท่องเที่ยว งามด้วยสถานที่และอาหารการกิน
…ปีนังหรือเกาะหมาก ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซียตะวันตก ประชากรส่วนใหญ่มีเชื้อสายจีนและมลายู เป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นเมืองอาณานิคมของหลายชาติ ทำให้ปีนังได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมจากชาติอื่นมาผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนท้องถิ่น จึงทำให้ปีนังมีเอกลักษณ์ของตัวเอง
เกาะปีนังอยู่ห่างจากเมืองหาดใหญ่ 215 กม.ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 3 ชม.เท่านั้น เราออกเดินทางขับรถออกจากตัวเมืองหาดใหญ่เข้ามาเลเซียโดยผ่านทางด่านศุลการกรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ที่มีพรมแดนติดกับรัฐเกอดะฮ์ ซึ่งก่อนถึงด่านเราจะต้องแลกเงินกับร้านแลกเงินริงกิตมาเลเซียให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นไปทำเรื่อง ตม.เข้าเมืองประเทศมาเลเซียใช้เวลาไม่นาน แถมถามไม่เยอะ
ถนนหลักของมาเลเซียเป็นถนนสาย AH2 North-South Express Way ที่ขับตรงไปเรื่อยๆ จนถึงทางทางแยกขึ้นสะพานเข้าเกาะปีนัง ซึ่งจะต้องเจอด่านเก็บเงินค่าใช้ทางหลายด่าน จึงควรเติมเงินในบัตรค่าทางด่วนไปให้เพียงพอ
ปั๊มน้ำมันในมาเลเชีย เป็นปั๊มที่ต้องบริการตัวเอง เดินไปจ่ายเงินที่เค้าน์เตอร์แล้วกับมาเติมที่รถ
ทางเข้าด่านขึ้นสะพานข้ามเกาะแห่งใหม่ที่ยาวกว่าและสวยงามกว่า
เมื่อข้ามมาถึงเกาะปีนังเข้าสู่จอร์จทาวน์เมืองหลักของปีนัง เรามุ่งตรงไปหาที่พักซึ่งก็น่าแปลกใจก็คือที่พักทั่วไปในปีนังมีราคาที่ถูก เฉลี่ยแล้วตกหัวละ 200 บาทต่อคืนเท่านั้น จากนั้นก็เริ่มสำรวจเมืองจอร์จทาวน์ ปีนังเป็นเมืองท่าเก่าที่ผสมผสานวัฒนธรรมทำให้มีสิ่งปลูกสร้างอาคารเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีส เต็มเมืองไปแทบทุกเส้นถนน และเต็มไปด้วย Street Art ตามอาคารเก่าที่สวยงาม
เมืองที่มีความผสมผสานของวัฒนธรรมเก่าและใหม่อย่างลงตัว
ลักษณะอาคารสองชั้นสไตล์ชิโน-โปตุกีสเรียงรายตามสองข้างทาง
รถสามล้อถีบโบราณยังมีให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง
แสงไฟยามค่ำคืนกับอาคารสวยสไตล์ชิโน-โปรตุกีสทั่วทั้งเมือง ตลอดเส้นทาง ถือว่าเป็นอีกเมืองที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบการถ่ายรูปมาก อีกทั้งของกินที่ปีนังนี่เยอะมากมีทั้งสตรีทฟู๊ดและร้านอาหาร ลักษณะใกล้เคียงเมืองไทยมาก ราคาก็ไม่แพง
Street Art เมืองจอร์จทาว์น เป็นงานศิลปะที่ดึงเอาสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้นๆ เข้ามามีส่วนร่วมอยู่ในงาน ประกอบกับอาคารบ้านเรือนที่
ผนังอาคารเก่ากับงานสตรีทอาร์ต
ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) หรือบูกิต เบนดีรา (Bukit Bendera) จุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์ของปีนังที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้สามารถมองเห็นเมืองปีนัง ทะเลและสะพานข้ามเกาะที่สวยงาม ด้วยการนั่งรถรางที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจขึ้นสู่ยอดปีนังฮิลล์ (ค่าบริการประมาณคนละ 200 บาท และต่อแถวรอขึ้นรถรางยาวมาก)
วิวจอร์จทาวน์ที่เบื้องล่างเมื่อมองลงมาจากปีนังฮิลล์
การขับรถเที่ยวมาเลเซียนั้นไม่ยากอย่างที่คิด เนื่องจากการขับรถใช้เลนซ้ายเหมือนบ้านเรา ใบขับขี่แบบใหม่ก็สามารถใช้ในกลุ่มประเทศอาเซียนได้อยู่แล้ว แต่ต้องทำประกันรถก่อนเข้าประเทศเท่านั้น
ภาษาที่ใช้สื่อสารสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ แต่ป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ จะเอาตัวอักษรภาษาอังกฤษมาใช้เป็นศัพท์มาลายู (อ่านออกแต่แปลไม่ได้) ฉนั้นต้องทำการบ้านมาพอสมควรก่อนมาเที่ยว
ค่าเงินริงกิตแม้จะต่างกับค่าเงินบาทเราเกือบสิบเท่า แต่ด้วยค่าครองชีพที่ใกล้เคียงกันทำให้ไม่รูสึกว่าแพงอย่างไร น่ามาเที่ยวจริงๆ