AEO (Answer Engine Optimization) และ SEO (Search Engine Optimization) เป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มุ่งเน้นการเพิ่มการมองเห็นในเครื่องมือค้นหา แต่มีเป้าหมายและวิธีการที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ เมื่อ AI เข้ามามีบทบาทในปัจจุบัน SEO คือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาของ Google แต่ผู้ใช้ต้องการคำตอบทันทีจาก AI และ AEO คือการปรับเนื้อหาให้ AI เลือก ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ตรงประเด็น และเข้าใจง่าย ทำให้ AI เลือกเลือกเนื้อหาของเรา

SEO (Search Engine Optimization)
SEO คือกระบวนการปรับปรุงคุณภาพและปริมาณของการเข้าชมเว็บไซต์หรือหน้าเว็บจากเครื่องมือค้นหา โดยมุ่งเป้าไปที่การเข้าชมแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย (organic results). เป้าหมายหลักของ SEO คือการทำให้ Google หรือ Search Engine อื่นๆ รู้ว่าเว็บไซต์ของเราดีและน่าเชื่อถือ เพื่อที่จะแนะนำเว็บไซต์ของเราให้ผู้คนคลิกเข้ามาอ่าน และถูกจัดอันดับให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นในหน้าผลการค้นหาแบบลิงก์สีน้ำเงิน (Blue Link). การทำ SEO จะพิจารณาว่าเครื่องมือค้นหาทำงานอย่างไร, อัลกอริทึมที่ใช้จัดอันดับ, สิ่งที่ผู้คนค้นหา, และคำค้นหาที่ใช้จริง. เว็บมาสเตอร์และผู้ให้บริการคอนเทนต์เริ่มปรับเว็บไซต์สำหรับเครื่องมือค้นหาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1990 และคำว่า “search engine optimization” เริ่มใช้ในปี 1997
AEO (Answer Engine Optimization)
AEO (Answer Engine Optimization) คือวิวัฒนาการของ Search Engine. ในอดีตเมื่อคุณค้นหาข้อมูล คุณจะต้องพิมพ์คำค้นหาสั้นๆ (Keyword) และไล่ดูลิงก์สีน้ำเงินหลายๆ ลิงก์เพื่อเปรียบเทียบข้อมูล. แต่ในปัจจุบัน Google มี “กล่องคำตอบ” (AI Overviews หรือ AI Mode) ที่ตอบคำถามคุณโดยตรง เสมือนมีผู้เชี่ยวชาญมานั่งตอบคำถามให้แบบเรียลไทม์

AEO คือกระบวนการปรับแต่งคอนเทนต์และโครงสร้างเว็บไซต์ทั้งหมดเพื่อให้เป็นมิตรกับการที่ AI จะเข้ามาทำความเข้าใจ วิเคราะห์ และเลือกนำเสนอเป็น “คำตอบสุดท้าย” ที่ดีที่สุด. นี่หมายความว่า AI จะสามารถดึงเนื้อหาจากเว็บไซต์ของคุณไปตอบคำถามของผู้ค้นหาได้โดยตรง โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณก่อน. บางครั้ง AEO ก็ถูกเรียกว่า AEO (Ask Engine Optimization) ซึ่งสื่อถึงการปรับคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับ “คำถาม” ของผู้คน. AEO ช่วยเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์ในเครื่องมือค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น ChatGPT, Perplexity AI และ Microsoft Copilot
ความแตกต่างระหว่าง SEO และ AEO
AEO ไม่ได้เข้ามาแทนที่ SEO แต่เป็นการทำงานร่วมกันและเสริมกัน. SEO คือรากฐานที่แข็งแกร่ง เช่น การทำ Technical SEO หรือการสร้าง Backlink ส่วน AEO คือการต่อยอดเนื้อหาและโครงสร้างบนรากฐานนั้นเพื่อคว้าโอกาสใหม่ๆ ในยุค AI
.
ด้าน | SEO (Search Engine Optimization) | AEO (Answer Engine Optimization) |
เป้าหมายหลัก | ติดอันดับสูงสุดเพื่อให้คนคลิกเข้าเว็บไซต์ | ให้ AI เลือกเนื้อหาไปตอบคำถาม แม้คนจะไม่คลิก |
รูปแบบเนื้อหา | บทความยาวๆ ครอบคลุมหัวข้อกว้าง | เน้นตอบคำถามเฉพาะ กระชับ ตรงประเด็น |
วิธีวัดผล | จำนวนคลิก, อันดับ, ผู้เข้าชมเว็บไซต์ | การถูกกล่าวถึง, การปรากฏใน AI Search |
แพลตฟอร์ม | Search engines เช่น Google, Bing, DuckDuckGo | Answer engines เช่น ChatGPT, Perplexity AI, Microsoft Copilot |
การกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ | Keywords (ไม่กี่คำถึงหลายคำ) เช่น “best restaurants in iceland” | Conversational questions เช่น “what are some good restaurants in Iceland?” |
ตัวชี้วัด (Metrics) | Referral traffic, Conversions, Domain authority, Rankings, Impressions, Traffic | Mentions, Citations, Placements |
ความคล้ายคลึงกัน
- เป้าหมาย: ทั้งสองมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์
- กลยุทธ์: ใช้กลยุทธ์ที่คล้ายกัน เช่น การสร้างเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ, การดึงดูด Backlink ที่มีคุณภาพ, และการกำหนดเป้าหมายวลีเฉพาะ
- ทักษะ: ใช้ทักษะเดียวกัน เช่น การสร้างคอนเทนต์, การวิจัยกลุ่มเป้าหมาย, และการวิเคราะห์ข้อมูล
ทำไม AEO ถึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำทันที
AEO ไม่ใช่เรื่องของอนาคต แต่เกิดขึ้นแล้วและส่งผลกระทบโดยตรงต่อทุกธุรกิจ. เหตุผลสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญกับ AEO มีดังนี้
- Google AI Overviews เข้ามาเปลี่ยนเกม: เมื่อค้นหาอะไรใน Google จะมีกล่องคำตอบจาก AI ขึ้นมาตอบทันที หากเว็บไซต์ของคุณไม่ถูก AI เลือกไปอ้างอิง คุณก็จะหายไปจากสายตาลูกค้า
- คนใช้เสียงค้นหามากขึ้น: ผู้คนใช้ Siri, Google Assistant, Alexa บ่อยขึ้น ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ต้องการคำตอบที่สั้น กระชับ และตรงประเด็น
- AI เข้ามาในชีวิตประจำวัน: หลังจากที่ผู้คนได้ลองใช้ ChatGPT ทุกคนเริ่มคาดหวังว่าการค้นหาข้อมูลควรจะได้รับคำตอบที่รวดเร็วและเป็นธรรมชาติเหมือนการพูดคุยกับคน
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ใช้: มีการคาดการณ์ว่า 25% ของการเข้าชมเว็บไซต์แบบ Organic จะเปลี่ยนไปสู่ AI Chatbots และ Virtual Agents ภายในปี 2026 แม้ว่าปริมาณ Traffic บนเว็บไซต์จะลดลง แต่รายได้กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้คนกำลังซื้อของแตกต่างไปจากเดิม
- ความได้เปรียบในการแข่งขัน: การปรับกลยุทธ์ AEO ตั้งแต่ตอนนี้จะช่วยให้ธุรกิจได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ปรับตัวช้า และเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ในช่องทางออนไลน์ต่างๆ ตั้งแต่ social media ไปจนถึง AI. AEO ยังเป็นโอกาสทองสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในการแข่งขันกับบริษัทใหญ่ๆ โดยการสร้างเนื้อหาที่ตอบคำถามเฉพาะกลุ่มได้ดีกว่า
แนวโน้มและมุมมองของ AEO
AEO คืออนาคตของการค้นหาที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว การเปลี่ยนจาก “รายชื่อลิงก์” ไปสู่ “คำตอบทันที” เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้. ธุรกิจที่เข้าใจและเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ไม่เพียงแต่จะรอดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ แต่ยังสามารถสร้างความได้เปรียบมหาศาลเหนือคู่แข่งที่ยังคงยึดติดกับวิธีการเดิมๆ. การทำ AEO ไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่เป็น “ทางรอด” และเป็นโอกาสสำคัญในการทำให้แบรนด์ของคุณกลายเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ในสายตาของผู้ใช้งานและ AI Search
แนวโน้มที่สำคัญในอนาคต ได้แก่
- Generative Engine Optimization (GEO) หรือ Artificial Intelligence Optimization: เน้นการปรับเนื้อหาเพื่อให้ AI สามารถนำไปใช้ในการสร้างคำตอบได้โดยตรง. นักการตลาดดิจิทัลจะต้องพิจารณารูปแบบคอนเทนต์, สัญญาณความน่าเชื่อถือ, และวิธีการนำเสนอ Structured Data เพื่อให้คอนเทนต์ “พร้อมตอบคำถาม” (promptable) มากขึ้น
- Search Experience Optimization (SXO): แนวคิดที่กว้างขึ้นที่รวม AEO เข้าไปด้วย โดย SXO มุ่งเน้นการปรับปรุงการแสดงตนของแบรนด์สำหรับการเดินทางค้นหาที่หลากหลายและไม่เป็นเชิงเส้น บนหลายแพลตฟอร์ม ไม่ใช่แค่ Google เท่านั้น
- การพัฒนา AI Mode ของ Google: Google ได้ประกาศว่าจะปล่อย AI Mode ให้กับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 ซึ่งจะใช้เทคนิค “query fan-out” ที่จะแยกคำค้นหาของผู้ใช้ออกเป็นหัวข้อย่อยหลายหัวข้อ เพื่อสร้างคำค้นหาเพิ่มเติม
ความท้าทายของ AEO: แม้ AEO จะมีศักยภาพสูง แต่ก็มีความท้าทายบางประการ
- การติดตามประสิทธิภาพ: AEO ยังขาดเครื่องมือการติดตามประสิทธิภาพที่ครอบคลุมเหมือน SEO. แม้บางแพลตฟอร์มจะรองรับการติดตาม AI Overviews แต่ก็ยังมีข้อจำกัด. การติดตามการถูกกล่าวถึงและการอ้างอิงใน Answer Engines มักต้องทำด้วยตนเองหรือใช้แพลตฟอร์มเฉพาะทางอย่าง OmniSEO™.
- การได้รับการสนับสนุนจากภายใน: ทีมการตลาดอาจประสบปัญหาในการขอการสนับสนุนจากภายในองค์กร เนื่องจาก AEO เป็นการลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากการทำ SEO
- การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Answer Engines หลากหลาย: แตกต่างจาก SEO ที่มักเน้น Google เป็นหลัก AEO ต้องเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Answer Engines หลายตัว เช่น ChatGPT, Claude, Gemini, Perplexity AI, Meta AI และ Microsoft Copilot ซึ่งแต่ละตัวมีกลไกที่เป็นเอกลักษณ์
โดยสรุปแล้ว การทำ AEO คือกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างความได้เปรียบในภูมิทัศน์ของการค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ที่มา
https://anga.co.th/seo/what-is-aeo/
https://cxl.com/blog/answer-engine-optimization-aeo-the-comprehensive-guide-for-2025/
https://www.seo.com/ai/answer-engine-optimization/
https://en.wikipedia.org/wiki/Search_engine_optimization
https://digitalmarketinginstitute.com/blog/what-is-seo